วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภาษาอีสาน วันละคำ สองคำ...

วันนี้เรามาเรียนรู้ภาษาอีสานพื้น บางคำ ที่คนต่างถิ่นมาอาจจะได้ยินคนขอนแก่นสนทนากันบ้าง.... Let's go!!


คำกริยา     
เมียบ้าน    กลับบ้าน 
ศูนย์    โกรธ 
ไปบ่    ไปไหม 
บ่ไป    ไม่ไป 
ไปนำ    ไปตามตัว 
เบิ่ง    ดู 
ไปนำแน่    ไปด้วย 
ไปไส    ไปไหน 
ไปโลด    ไปเลย 
หั่นเด้    นั่นงัย 
หลุด    ลด(ราคา) 
มวน    สนุก 
แจ้ง    เช้า 
ซอย    ช่วย 
ซอด    ทะลุ 
ตั๋ว    โกหก 
ขี้ตั๋ว    ขี้โกหก 
เซี่ยง    ซ่อน(ของ) 
ซูน    แตะ 
ต้อย    แตะ 
อึด    หายาก/ขาดแคลน 
ดึก    ปา/ขว้าง สิ่งของ 
ฮู้    รู้ 
ม่วน    สนุก 
เข็ดแข่ว    เสียวฟัน 
เมี่ยน    เก็บให้เป็นระเบียบ 
หลุดทุน    ขาดทุน 
รถตำกัน    รถชนกัน 
มุน    ละเอียด 
ลุบ    ยุบ 
ม่องได๋/บ่อนได๋    ที่ไหน 
เล่นสาว    จีบสาว 
อีหลีบ่    จริงหรือ 
อีหลี    จริง 
แม่นบ่    ใช่หรือ 
สวย    สาย 
มิด    เงียบ, จม 
จอบ    แอบดู 
แลน    วิ่ง 
เซา    หยุด 
แซบ    อร่อย 
ยาง    เดิน 
เว่า    พูด 
เฮ็ด    ทำ 
เวียก    งาน 
โดน    นาน 
อีหยัง    อะไร 
บ่    ไม่ 
ติง    ขยับ 
ลี้    ซ่อน 
ตอดเงา    สัปงก 
ขี้คร้าน    ขี้เกียจ 
ขี้ถี่    ขี้เหนียว 
ปึก    โง่ ฉลาดน้อย 
จี่    ย่าง/ปิ้ง 
ม่าง    รื้อ, ทำลาย 
แนม    แอบดู 
ฟ้าว    รีบ 
เป็นตาหน่าย    น่าเบื่อ 
หย่ำ    เคี้ยว 
โสกัน    คุยกัน 
เข็ดแข่ว    เสียวฟัน 
ยู่    เข็น 

คำนาม     
พืช-ผลไม้      
บักหุ่ง    มะละกอ 
บักหุ่งเหิม    มะละกอใกล้สุก 
บักเขียบ    น้อยหน่า 
ไน    เมล็ด/เม็ด 
บักต้อง    กระท้อน 
บักมี่    ขนุน 
มันเภา    มันแกว 
บักทัน    พุทธา 
บักอึอ    ฟักทอง 
บักสีดา    ฝรั่ง 

สัตว์      
ขี้คันคาก    คางคก 
ขี้เกี้ยม    จิ้งจก 
หมาว้อ    หมาบ้า 
ปลาแดก    ปลาร้า 
งัว    วัว 

สิ่งของ      
เกิบ    รองเท้า 
จอก    แก้วน้ำ 
รถยู้    รถเข็น 
บ่วง    ช้อน 
บักจก    จอบ 
รถเครื่อง    มอเตอร์ไซด์ 

คำสรรพนาม      
เซียง    คำนำหน้าคนที่เคยบวชเณร 
เอื้อย    พี่สาว 
ข่อย    ข้าพเจ้า 
ทิด    คำนำหน้าคนที่เคยบวชพระ 
อ้าย    พี่ชาย 
เพิน    ท่าน/เขา 

อื่นๆ      
ซาว    20
ดัง    จมูก 
แข่ว    ฟัน 
สบ    ริมฝีปาก 

แนะนำร้านอาหารอร่อยในขอนแก่น

โดยที่เราจะแบ่งเป็นโซนๆ เพื่อ ง่ายต่อการต่อผู้ที่อ่านที่จะสะดวก หรือ ใกล้ ในบริเวณสถานที่นั้นๆ โดยเราแบ่งออก ทั้งหมด เป็น 11 โซน ดังนี้

1.โซนใกล้ มข.
1.1 Pizza&Bake
มี2สาขา สาขาที่พูดคือสาขา1 ตั้งอยู่ถ.มะลิวัลย์ (หันหน้าไปทางชุมแพ เลยห้างเซ็นโทซ่าประมาณ50เมตร อยู่ซ้ายมือ) 043-238883 และ ถ.กลางเมือง (ติดโชคดีติ่มซำ แยก รร.แก่นอินน์) รสชาติมาตรฐาน รายการอาหารหลายเชื้อชาติ ใครได้ลองแล้วจะติดใจ ราคาแพงแต่อาหารอลังการ กุ๊กฝีมือเยี่ยม น่าพาแขกไปรับรอง


1.2 แซบนัวครัวอิสาน 
บนถ.มิตรภาพ ตรงข้ามรพ.ศรีนครินทร์ 043-244119/085-0033445 ส้มตำนัว นึ่งปลาจิ้มแจ่วก็อร่อย เมนูแกงเห็ดก็อร่อย


1.3 ส้มตำ ไก่ย่างปรีชา 
อุทยานสวนเกษตร มข. ไม่มาร้านนี้แสดงว่า ไม่ได้มาเที่ยว มข. ร้านนี้ขนมจีนอร่อยดี น้ำยาลาวก็อร่อย อย่าลืมกล้วยอบน้ำผึ้งทอดเป็นของฝากกลับบ้าน เปิด9.00-16.00 น. โทร085-0014991, 086-8595839


1.4 .มิตรภาพลาบก้อย(ถนนมิตรภาพ) 
ข้างศูนย์ฮอนด้า ใกล้รพ.ศรีนครินทร์ อาหารอีสาน เช่น ลาบ ต้ม ก้อย ฯลฯ ที่เลิศรสเป็นอย่างดี


1.5 สรวลหรรษา 
(ถนนข้างหอประชุมเต่าทอง มข.) อร่อยหลาย จานใหญ่ทรงติสท์ สาวๆนศ.เพียบ ไปค่ำมากอาจได้จอดไกลหน่อย (รถยนต์) มีวงดนตรีเล่นสดเพราะๆ


2. โซนถนนศรีจันทร์
2.1 ครัวหยก 
ถ.ศรีจันทร์ แถวๆวัดศรีจันทร์(ฝั่งเดียวกับวัด) 043-242937/089-7154580 ร้านนี้เป็นธุรกิจครอบครัวคนจีนแท้ๆ บรรยากาศเห็นแล้วรู้สึกอบอุ่น ไปสั่งบะหมี่ฮ่องกง กับกระเพาะปลา ขึ้นสวรรค์ไปเลย ช่วงเวลาเที่ยงๆคนจะเยอะมาก ทั้งเด็ก นร. และครู


2.2 ข้าวต้มก๊ก 24 น.
ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง บรรยากาศแบบเปิดโล่ง กว้างขวาง รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก 
หากจะหาร้านข้าวทานทั้งยามเย็นและยามดึกในขอนแก่น ขอแนะนำ ร้านข้าวต้มก๊ก 24 น. ร้านอาหารที่ใครหลายคนนิยมมารับประทานเป็นประจำ จุดเด่นของร้านนี้คือ อาหารออกเร็ว อร่อย และสามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก บรรยากาศแบบธรรมชาติ สบายๆ พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูที่หลากหลายเน้นคุณภาพอาหารเลิศรส และปริมาณสุดคุ้ม เลือกทานได้กับข้าวต้มอุ่นๆหรือข้าวสวยร้อนๆ เช่น เป็ดพะโล้ ไส้หมูพะโล้ ผักบุ้งไฟแดง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ต้มแซ่บขาไก่ ฉู่ฉี่กุ้งแช่บ๊วย ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน กุยช่ายข้าวผัดหมูกรอบ และอีกหลายเมนูสด สะอาด อร่อย กับร้านข้าวต้มก๊ก 24 น. ร้านขึ้นชื่อในจังหวัดขอนแก่น ที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังกับร้านข้าวต้มยามวิกาล 


3.โซนวัดศรีนวล
3.1 ก๋วยเตี๋ยวเฝอ ท่าบ่อ
ตรงข้ามร้านจิ้มจุ่มริมคลองและร้านที่12.(ลักษณ์อาหารเช้า) ร้านนี้อาหารอร่อยรสชาติผู้ดี คนเต็มร้าน 


3.2 เส้นปลาทะเล 
ตรงข้ามประตูวัดศรีนวล มีเมนูก๋วยเตี๋ยวหลากหลาย ทั้งก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาทะเล ก๋วยเตี๋ยวปลาจุ่ม ก๋วยเตี๋ยวโป๊ะแตก ข้างๆร้านก็มีร้านขนมไทยคุณยาย ซื้อไปฝากใครก็ไม่น่าอาย เจ้าของร้านสุภาพมาก พูดกับลูกค้าเพราะกว่าใครในสามโลก(เชิญพิสูจน์ด้วยตนเอง)


3.3 แจ่วฮ้อนน้ำพอง
(ตรงข้ามปั้มปตท. วัดศรีนวล) อยู่ระหว่างร้านเส้น8 ยอ10 และร้านเฝอท่าบ่อ รสชาติต้นตำรับจาก อ.น้ำพองแท้ๆ เพราะเจ้าของจาก อ.น้ำพองเข้ามาปรุงสูตรเองทุกๆวัน ไม่ต้องเสียเวลาไปไกลถึงอ.น้ำพอง โทรสั่งเลย 084-5150050 ที่เก๋สุดคงจะเป็นไปคนเดียว สั่งแจ่วฮ้อนเป็นถ้วย ราคา 50 บาท


4.โซนถ.รอบบึงแก่นนคร
4.1Smile 
ร้านอาหารกึ่งผับที่หรูหรา ใหญ่โต ที่สุดในขอนแก่น อาหารหลากหลายเมนู ทั้งคาวหวาน น้อยใหญ่  
นักร้อง เสียงดี ดนตรีเพราะ มีห้องพิเศษและคาราโอเกะสำหรับเลี้ยงเป็นหมู่คณะ 


4.2 ติ๊กแจ่วฮ้อน
อยู่ๆแถวๆทางเข้าภัตตาคารบัวหลวง บึงแก่นนคร ร้านนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดอาหารขอนแก่น


5.โซนวิลล่า หรือปรับอากาศ ถ.กลางเมือง
5.1 เอมโอช
ถ.กลางเมือง ร้านอาหารเช้าแถวๆวิลล่า เป็นร้านอาหารเช้าที่มีคุณภาพ มีโจ๊ก ต้มเลือดหมู ไข่กะทะ ขนมปังญวนสอดไส้ ระวังเจอดารานะครับ และนักเที่ยวราตรี หน้าตาหล่อๆสวยๆ


5.2 คอหมูย่าง 
ตรงข้ามร้านที่27 ต้มยำซี่โครงหมู อร่อยเด็ด สั่งกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะลองเมนูคอหมูย่างก็ได้น้ำจิ้มเลิศรส ส่วนน้ำตกหมูก็ไม่แพ้กัน


5.3 ก๋วยเตี๋ยวคนจีน(เล้งเย็นตาโฟ) 
ข้างๆเซเว่น ถ.กลางเมือง แถวๆวิลล่า ร้านนี้ทำเร็วมาก สั่งปุ๊บได้ปั๊บ 


6.โซนการเคหะ
6.1 ส.โอชา
ร้านข้าวต้มตั้งใหม่ ถ.กลางเมือง ฝั่งการเคหะ ร้านตั้งอยู่คนละฝั่งกับวัดหนองแวง ใกล้ศูนย์Sumsung พ่อครัวเป็นเจ้าของร้านทำเองชื่อพี่สิงห์กับภรรยาชื่อพี่นก สามีเคยเป็นกุ๊กเก่าทำงานที่ไต้หวัน อพยพมาจากอ.ภูเขียว ชัยภูมิ มาลงหลักปักฐานที่นี่ ไปลองแล้วติดใจ ขอออกตัวว่าเพิ่งเคยไปกินแค่2ครั้ง รู้สึกชอบในรสชาติและอัธยาศัยของพี่ทั้ง2 จึงขอเชิญชวนคนที่สนใจแวะชิม เพื่อเป็นกำลังใจให้ร้านใหม่ ที่หลายๆอย่างผ่านในความคิดของผม

6.2 ร้านบุญดี(พี่หน่อย)หมูกะทะ
บ้านดอนบม ถนนบายพาสเมืองขอนแก่น ฝั่งหมู่บ้านการเคหะ น้ำจิ้มอร่อยล้ำสะเด็ดถึงทรวง กลมกล่อม รสจัดจ้านถึงใจ เนื้อหมัก มีพริกไทยหอมคละคลุ้ง ทุกอย่าง Freshly prepare เตรียมวันต่อวัน หมดเร็วมาก


7.โซนสนามบิน
7.1ประไพสนามบิน 
ร้านอาหารอิสานก่อนถึงสนามบินขอนแก่น อร่อยมาก โดยเฉพาะต้มปลา, อ่อมหมู, แกงเห็ด, นึ่งปลา


7.2 Green leaf
ก่อนถึงร้านประไพสนามบิน อาหารฝรั่ง บรรยากาศเก๋ๆ หรูหรา แพง จานเล็ก น่ารัก พอดีคำ แต่อร่อย


8.โซนบึงทุ่งสร้าง
ส้มตำสวนเกษตร ถ.กสิกรทุ่งสร้าง อยู่แถวๆประตูโขงในหลวง 043-338303/081-5462186/081-9642535 เคยเป็นร้านต้อนรับการประชุมเอเปค ที่ขอนแก่นเคยเป็นเจ้าภาพ ร้านนี้ เมนูเป็ดย่างยัดด้วยสมุนไพร อร่อยมาก


9.โซนจตุจักร
9.1 ก๋วยเตียวเรือ อร่อย3เวลา 
แยก บขส.รถแดง ถ.ประชาสโมสรตัดกับ ถ.หน้าเมือง เยื้องสวนสุขภาพรัชดา แถวตลาดจตุจักร ร้านนี้เจ้าของร้านเป็นคนจีน ปราดเปรียว รวดเร็ว พุดเพราะ สุภาพกับลุกค้าทุกระดับ เป็นร้านขวัญใจของเด็กนักเรียนประถมและมัธยมทั้งเมืองขอนแก่น 


10. โซนห้างแฟรี่
10.1 โจ๊ก จั๊บ บัตรคิว
 ถ.หน้าเมือง หลังตลาดสดบางลำพู คนต่อคิวยาวมากพาใครไปกิน รับรองติดใจ ให้เครื่องก็เยอะ รสชาติก็ลงตัว แถมบริการพูดดีมาก


10.2 ร้านเติมรมย์ 
ถนนชีท่าขอน(ข้างโรงพัก สภอ.เมืองขอนแก่น) มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก อยู่ขวามือ ร้านนี้น้อยคนที่เป็นคนขอนแก่นแล้วจะไม่รู้จัก อาหารอร่อย ราคาประหยัด เพลงเพราะ บรรยากาศดี


10.3 ตำนัวบัตรคิว 
ร้านส้มตำกลางคืน085-3023459 ถ.หน้าเมือง เยื้องๆแฟรี่ ติดร้านตัดผม มะนาวหั่นสั้นหั่นยาว หรือตรงข้ามคลินิกพญ.วรลักษณ์ ขายตั้งแต่ 18.00-01.00 น. เจ้าของร้านชื่อพี่ทราย พูดเพราะ สุภาพกับลูกค้า รอนานมากกว่าจะได้กิน แต่คุ้ม หลังๆมาขึ้นราคา ต้องจ่ายมากขึ้นอีกนิดหน่อยแต่ก็อร่อยเหมือนเดิม


10.4 ก๋วยเตี๋ยวเฮียอ้วน
ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระที่รสชาติเข้มข้น อร่อยไปแล้วต้องอยากไปอีก อยู่ตรงข้ามโรงงานขอนแก่น-แหอวน ถ.เหล่านาดี (ถ.หน้ารร.แก่นนครวิทยาลัย) แล้วอย่าลืมตบท้ายด้วยขนมทองพับ


11.โซน ถ.ประชาสโมสร
11.1 ข้าวซอยเชียงใหม่ชาวเหนือ
วิ่งบนถนนประชาสโมสร หันหน้าไปทางเชียงยืนหรือวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย เลย4แยก ชาตะผดุงไปอีก 200 เมตร อยู่ซ้ายมือ ต้นตำรับอาหารเหนือแท้ๆ เปิดเพลงเหนือฟังแล้วเย็นใจดี


11.2 ร้านครัวโอมเพียง 
วิ่งบนถนนประชาสโมสร หันหน้าไปทางเชียงยืนหรือวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ผ่านรร.เซ็นทารา เลยไปอีกนิดอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงปั๊ม ปตท. ร้านอาหารอิสานที่อร่อยเว่อร์ ไปชิมแกงเห็ดตามฤดูกาลที่อร่อยที่สุดในโลก ทั้งยังมีลาบปลาตะเพียน (ที่นี่ไม่มีก้าง) ร้านนี้ได้รับใบประกาศจากสถาบันรับรองความอร่อยเยอะแยะ ดาราที่มาเที่ยวขอนแก่น ต้องมาแวะโชว์รูปติดฝาบ้าน รับประกันความอร่อยกันเลยทีเดียว



วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มหาวิทยาลัย ในเมืองขอนแก่น

1.มหาวิทยาลัยขอนแก่น



         ประวัติ ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
 "การตั้งมหาวิทยาขอนแก่นขึ้นอีกแห่งหนึ่งนั้น เป็นคุณอย่างยิ่ง เพราะทำให้การศึกษาชั้นสูงขยายออกไปถึงภูมิภาคที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของประเทศ ซึ่งต่อไปจะเป็นผลดีแก่การพัฒนา ยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง  ความสำเร็จในการตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงเป็นความสำเร็จที่ทุกคนควร จะยินดี"
      พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดมหาวิทยาลัยขอนแก่น 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2510

ภาพเก่าของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ตราประจำมหาวิทยาลัย
      เป็นรูปเทพยดากระหนาบองค์พระธาตุพนมอัญเชิญมิ่งมงคลประทานแก่สถาบัน สถิตเหนือขอนไม้
 ซึ่งสลักเป็นชื่อมหาวิทยาลัย พื้นหลังแบ่งเป็น 3 ช่อง มีความหมายถึง คุณธรรมของนักศึกษา 3 ประการได้แก่ วิทยา คือ ความรู้ดี จริยา คือ ความประพฤติดี ปัญญา คือความฉลาด เกิดแต่การเรียนดี และคิดดี


      

สีประจำมหาวิทยาลัย 
      คือ สีดินแดง อันมีความหมายโยงไปถึงลักษณะ และภูมินามของพื้นที่ซึ่งเป็นเนินดินลูกคลื่นสีแดงหรือที่เรียกว่า "มอดินแดง" อันซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย


ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย
    คือ ดอกกัลปพฤกษ์   เป็นต้นไม้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกพระราชทาน เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีเปิดมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2510



2.มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


 ประวัติ ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน  เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2531 โดย นายสุบิน ปิ่นขยัน ซึ่ง เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น เป็นผู้ลงนาม ออกใบอนุญาตจัดตั้งในนามของ วิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ว.ภ.น.) หรือ North Eastern College (N.E.C.)

ตราประจำมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     รูปแผนที่ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ภายในอาณาเขตแผนที่ประเทศไทย บรรจุอยู่ในวงกลมรูปฟันเฟืองจำนวน 19 เฟือง มีชื่อมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภาษาไทย อยู่ด้านบน และมีชื่อมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่าง รูปอุณาโลม และประกายแสงสว่าง จำนวน 19 แฉก รูปโบว์ บรรจุคติพจน์ของมหาวิทยาลัย ว่า "คุณวุฒิ คุณธรรม คุณภาพ" 



วิสัยทัศน์ (Vision)
     ความเจริญงอกงามทางด้านวิชาการและเทคโนโลยีของประชาขนในภาคตะวันออกเฉียง เหนือที่เปี่ยมพลังซึ่งผดุง ไว้และสรรค์สร้างวัฒนธรรมและคุณธรรม เพื่อนำไปบริการสังคม อันเป็นสายธารที่หล่อเลี้ยงประชาชนให้ได้รับประโยชน์สุขโดยทั่วไป

สีประจำมหาวิทยาลัย 
สีเหลือง ชมพู ฟ้า 

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย 
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูณ)




3.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น


ประวัติ ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น

    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ในปัจจุบัน วิทยาเขตขอนแก่น ได้ก่อตั้งในสังกัดกองโรงเรียนพาณิชย์และอุตสาหกรรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อ วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น

    วันที่ 1 ตุลาคม 2506  รัฐบาลไทย และรัฐบาลสหพันธ์สารธารณรัฐเยอรมันได้มีการลงนามในการให้ความร่วมมือช่วยเหลือจัดตั้งสถาบันการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ เพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางด้านช่างฝีมือให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานและเลือกจังหวัดขอนแก่นเป็นที่ตั้ง จึงใช้ชื่อเรียกกันว่า วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่นแต่บุคคลนิยมเรียกกันว่า เทคนิคไทย – เยอรมัน สังกัดกองโรงเรียนพาณิชย์และอุตสาหกรรม

    กรมอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ  โดยจังหวัดขอนแก่นได้นำที่ดินสาธารณะประโยชน์ ถ.ศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ทางด้าน ทิศตะวันออก เป็นสถานที่จัดตั้งมีเนื้อที่ 36 ไร่ ต่อมาได้ที่ดินจากโรงเรียนบ้านหนองใหญ่ และซื้อจากเอกชนอีกร่วมเนื้อที่ปัจจุบัน จำนวน 106 ไร่ ในปี 2507 


ตราประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
    ภายในวงกลมเป็นรูปดอกบัวบาน 8 กลีบล้อมรอบ ดอกบัวบาน 8 กลีบหมายถึงทางแห่งความสำเร็จมรรค 8 และความสดชื่นเบิกบานก่อให้เกิดปัญญาแผ่ขจรไปทั่วสารทิศ ภายใต้ดอกบัวเป็นดวงตราพระราชสัญจกรบรรจุอยู่ หมายถึง สัญลักษณ์และเครื่องหมายประจำองค์พระมหากษัตริย์ของรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์เป็นผู้พระราชทานนามว่า “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล” บนตรารูปวงกลม มีพระมหาพิชัยมงกุฎครอบ และมีเลข 9 อยู่ หมายถึงรัชกาลที่ 9


วิสัยทัศน์ (Vision)
    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุณภาพชั้นนำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มุ่งเน้นการผลิตนักปฏิบัติด้านวิชาชีพ เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม

สีประจำมหาวิทยาลัย 
สีแสด

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย 
ต้นแคแสด เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีแสด



4.มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน


ประวัติ ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน
    เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2533 สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้อนุมัติให้สถาปนา วิทยาเขตแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น ให้ชื่อว่าสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน  ณ  วัดศรีจันทร์(พระอารามหลวง) อำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น
     ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 ภายหลัง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จัดตั้งมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ชื่อใหม่ว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน และได้ย้ายไปอยู่  ณ  บ้านโนนชัย  ถนนราษฎร์คนึง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2542


ตราประจำมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน
พระมหามงกุฏ และ อุณาโลม หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนาม “มหามกุฏราชวิทยาลัย”
   
พระเกี้ยวประดิษฐานบนหมอนรอง หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระผู้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “มหามกุฏราชวิทยาลัย”
   
หนังสือ หมายถึง คัมภีร์และตำราทางพระพุทธศาสนา เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเผยแผ่พระพุทธศาสนา
   
ปากกาปากไก่ ดินสอ และม้วนกระดาษ หมาย ถึง อุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียน การพิมพ์เผยแพร่คัมภีร์และการผลิตตำราทางพระพุทธศาสนา เพราะมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นทั้งสถาบันศึกษา และแหล่งผลิตตำรับตำราทางพระพุทธศาสนา
   
ช่อดอกไม้แย้มกลีบ หมายถึง ความเบ่งบานแห่งสติปัญญา และวิทยาการในทางพระพุทธศาสนา และหมายถึง กิตติศัพท์กิตติคุณที่ฟุ้งขจรไป ดุจกลิ่นหอมแห่งดอกไม้
   
ธงชาติไทย หมายถึง อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ที่มุ่งพิทักษ์สถาบันหลักทั้ง ๓ คือ ชาติไทย พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
   
พานรองรับหนังสือหรือคัมภีร์ หมายความว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นสถาบันเพื่อความมั่นคง และแพร่หลายของพระพุทธศาสนา
   
วงรัศมี หมายถึง แสงสว่างแห่งปัญญา วิสุทธิ สันติ และกรุณา ที่มหาวิทยามหามกุฏราชวิทยาลัยมุ่งสาดส่องไปทั่วโลก
   
มหามกุฏราชวิทยาลัย หมายถึง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อันเป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนาระดับอุดมศึกษา

Vision (วิสัยทัศน์)
     มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันที่ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ดี มีความประพฤติดี ดำรงชีพในสังคมด้วยพรหมวิหารธรรม เป็นแหล่งรวมความรู้ และผู้เชี่ยวชาญวิชาการพระพุทธศาสนา ที่สามารถชี้นำสังคม และยุติข้อขัดแย้งด้านวิชาการด้านพระพุทธศาสนาได้ เป็นสถาบันที่มีระบบ บริหารและการจัดการศึกษาที่ได้มาตรฐานสากล

สีประจำมหาวิทยาลัย
    สีส้ม หมายถึง สีประจำพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี อันเป็นวันพระราชสมภพ

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
    ต้นโพธิ์ ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า




วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ดูพระอาทิตย์ตก ณ เขื่อน อุบลรัตน์

เขื่อนอุบลรัตน์

อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น


1. ประวัติเขื่อนอุบลรัตน์   
      เขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งอยู่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว เขื่อนอุบลรัตน์เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทย  เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทยต่อจากเขื่อนภูมิพล สร้างปิดกั้นแม่น้ำพอง ตรงบริเวณที่เรียกว่า “ พองหนีบ “ ตำบลโคกสูง อำเภอน้ำพอง ( ปัจจุบันเป็นอำเภออุบลรัตน์ ) จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่น ประมาณ 50 กิโลเมตร โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2507 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2509 โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี (ฐานันดรศักดิ์ในขณะนั้น) ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2509 ทรงพระราชทานชื่อเขื่อนนี้ว่า “เขื่อนอุบลรัตน์”


2.บางแสน2
     ตั้งอยู่ที่บ้านหินเพิง ตำบลท่าเรือ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปประมาณ 53 กิโลเมตร บรรยากาศโดยรอบของชายหาดริมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ กิจกรรมกีฬาทางน้ำที่น่าสนใจก็คือ การบริการให้เช่าจักรยานน้ำ, บานาน่าโบ๊ท, ห่วงยาง นอกจากนี้ยังมีบริการร้านอาหารตลอดแนวฝั่ง เน้นเป็นอาหารที่ปรุงจากปลาภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ได้แก่ ปลานิล, ปลาตะเพียน, ปลาช่อน, ฯลฯ  บรรยากาศดี


4.วัดพระพุทธบาทภูพานคำ
   เป็นวัดที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่บนยอดภูพานคำ ใกล้ทางเข้าเขื่อนอุบลรัต…ตั้งบริเวณไหล่เขาภูพานคำ อำเภออุบลรัตน์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และ พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือหลวงพ่อใหญ่ สูง 14 เมตร อยู่บนยอดเขา มีบันไดทางขึ้นจากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวน 1,049 ขั้น หรือจะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาก็ได้ บนยอดเขามองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ได้สวยงาม
การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนอุบลรัตน์ ก่อนถึงประตูทางเข้าบริเวณเขื่อนจะมีป้ายวัดอยู่ด้านซ้ายมือ หรือจะใช้ทางเข้าวัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาลอุบลรัตน์ก็ได้



วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ที่มาของชื่อ "ขอนแก่น"

เหตุที่เมืองนี้มีชื่อว่า "เมืองขอนแก่น" นั้นได้มีตำนานแต่โบราณเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ก่อนที่เจ้าเพียเมืองแพนจะอพยพไพร่พลมาตั้งบ้านตั้งเมืองขึ้นนั้น ปรากฏว่าบ้านขาม หรือตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพองปัจจุบัน ซึ่งเป็นเขตแขวงร่วมการปกครองกับบ้านชีโล้น มีตอมะขามขนาดใหญ่ที่ตายไปหลายปีแล้ว กลับมีใบงอกงามเกิดขึ้นใหม่อีก และหากผู้ใดไปกระทำมิดีมิร้ายหรือดูถูกดูหมิ่น ไม่ให้ความเคารพยำเกรง ก็จะมีอันเป็นไปในทันทีทันใด เป็นที่น่าประหลาดและมหัศจรรย์ยิ่งนัก
ท้าวเพียเมืองแพน
ดังนั้น บรรดาชาวบ้านชาวเมืองในแถบถิ่นนั้นจึงได้พร้อมใจกันก่อเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นเอาไว้เสีย เพื่อให้เป็นที่สักการะของคนทั่วไป พร้อมกับได้บรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า 9 บทเข้าไว้ในเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นด้วย ซึ่งเรียกว่า พระเจ้า 9 พระองค์ แต่เจดีย์ที่สร้างในครั้งแรกเป็นรูปปรางค์ หลังจากได้ทำการบูรณะใหม่เมื่อราว 50 ปีที่ผ่านมานี้ จึงได้เปลี่ยนเป็นรูปทรงเจดีย์ และมีนามว่า พระธาตุขามแก่น ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตวัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พระเจดีย์ขามแก่นถือว่าเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะมีงานพิธีบวงสรวง เคารพสักการะกันในวันเพ็ญเดือน 6 ทุกปี

พระธาตุขามแก่น
  ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์พระธาตุขามแก่นนั้น มีซากโบราณที่ปรักหักพังปรากฏอยู่ โดยอยู่ห่างจากเจดีย์ราว 15 เส้น หรืออยู่คนละฟากทุ่งของบ้านขาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริเวณแถบนี้น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองมาก่อน แต่ได้ร้างไปนาน ดังนั้น จึงได้ถือเอานิมิตนี้มาตั้งนามเมืองว่าขามแก่น แต่ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็นเมืองขอนแก่น จนกระทั่งทุกวันนี้